Bamboo light : ชมนวลแสงจากลำไผ่ ฟังบทเพลงร่วมสมัยในงานเทศกาล Chiku Raku

Bamboo Light เป็นแสงเทียนในลำไม้ไผ่ที่จัดแสดงในงานเทศกาล Chiku Raku อันเป็นเทศกาลประจำปี ที่จัดขึ้นในเมืองเล็ก ๆบนภูเขา ในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ในเมืองนี้มีต้นไผ่จำนวนมากปกคลุมไปทั่วทั้งเนินเขา เป็นเหตุให้มีงานหัตถกรรมที่ทำจากไม้ไผ่เกิดขึ้นอย่างมากมาย  Chiku Raku ในภาษาญี่ปุ่นนั้นหมายถึง Fun with bamboo หากเรียกแบบไทย ๆก็ทำนองว่า “ เล่นสนุกกับไม้ไผ่ ”  ในราวเดือนพฤศจิกายน ของทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่าหนึ่งแสนคนเดินทางมาเพื่อชมการจัดแสดงโคมจากลำไผ่ ที่มีมากกว่าสองหมื่นโคมที่เมืองแห่งนี้ โคมไม้ไผ่จะถูกวางกระจายไปทั่วทั้งเมืองเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้มาเยือน โคมไม้ไผ่จะถูกจัดวางตามพื้นถนน ข้างทางเต็มไปหมด แต่ที่น่าจะเป็นที่ที่มีการให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือตามขั้นบันไดที่จะขึ้นไปสู่ศาลเจ้า ที่มีพระพุทธรูปหินแกะสลักจำนวน 12 องค์ที่มีอายุราวหนึ่งพันปีเรียงรายอยู่ บริเวณนี้จะได้รับการเอาใจใส่ด้วยการตกแต่งโคมไม้ไผ่ไว้อย่างสวยงาม และโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยการเฉลิมฉลองอย่างเรียบง่ายที่ชวนให้หลงใหล ประกอบกับมีการเล่นดนตรีร่วมสมัย และมีบริการอาหารพื้นถิ่นดั้งเดิมของคนแถบนี้ จึงเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนมาเยี่ยมชมงานอย่างมากมายเป็นประจำทุก ๆปี

แสงไฟจากโคมไม้ไผ่จำนวนมากในยามค่ำคืนของปลายฤดูใบไม้ร่วง มีเสน่ห์เย้ายวนสร้างอารมณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ไม่ว่าจะเป็นแสงนวล ๆจากเทียนไขที่ไปกระทบกับผิวไผ่ธรรมชาติจากด้านใน สามารถสร้างความรู้สึกที่สุขุม สงบ อบอุ่น ไม่รีบร้อน ขณะที่สีสันที่ถูกแต้มลงบนผิวไผ่ด้านใน ทั้งเหลือง แดง น้ำเงิน หรือม่วง ล้วนสร้างความรู้สึกที่สนุกสนาน ร้อนแรง และลึกลับอย่างกลาย ๆ ผู้คนล้วนเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการเดินอย่างช้า ๆไปตามทางเดินของเมืองที่มืดสลัว มีเพียงแสงจากเปลวเทียนในลำไม้ไผ่ที่คอยล้อเล่นกับความรู้สึกเป็นเพื่อนนำทาง เสียงดนตรีที่บรรเลงอยู่ตามมุมต่าง ๆช่วยเสริมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

บริเวณบันไดทางขึ้นหลักของศาลเจ้าฮิโรสึทีมีจำนวนหลายร้อยขั้นถูกประดับไปด้วยโคมไม้ไผ่จำนวนมากถึง 1800 โคมวางเรียงรายไว้อย่างงดงามตระการตา ที่เมืองทาเคดะแห่งนี้เดิมมีปราสาทของตระกูลโอกะที่สร้างด้วยหินมากกว่า 70000 ก้อน ต่อมาปราสาทได้ถูกเผาจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง คงเหลือแต่กำแพงหิน และภูเขาที่ประสานกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน ในช่วงเทศกาลนี้ บริเวณเมืองแห่งปราสาทก็จะถูกปลุกด้วยเปลวแสงแห่งเทียนให้ผู้คนได้รำลึกถึงอยู่มิรู้คลาย ที่ตรงนี้ยังมีชื่อเสียงอยู่ในบทประพันธ์ของ Rintaro Taki ในเรื่อง Moon in the Arashiyaku อีกด้วย

บริเวณด้านหน้าของศาลเจ้าฮิโรสึ แสงจากเปลวเทียนในลำไผ่ยังคงสะท้อนภาพของต้นไม้ และใบไม้ได้อย่างงดงาม ขณะเดียวกันก็มีบูธอาหาร และเครื่องดื่มตั้งอยู่ใกล้ ๆ มีนักดนตรีเล่นเพลงช้า ๆ ผู้คนจำนวนมากเพลิดเพลินกับเสียงเพลง หนุ่ม ๆดื่มเบียร์ หรือไม่ก็เหล้าสาเก สาว ๆและเด็กก็สนุกกับร้านขายของที่ระลึก น้ำผลไม้ หรือขนมหวาน และอาหารหลากหลาย ทั้งเกี๊ยว โซบะ เป็นที่ที่น่าสนใจที่จะชวนกันมาเดินเล่น

Bamboo Light จากโคมไม้ไผ่จะถูกประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างเรียบง่ายโดยอาสาสมัคร และคนพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ไม้ไผ่จะถูกตัดออกเป็นหลายขนาด และถูกจัดการอย่างดีตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของเมืองทาเคดะ บางลำถูกออกแบบไว้อย่างเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ บางลำก็ถูกฉลุเป็นลายต่าง ๆ แสงไฟที่ลอดผ่านรอยฉลุในยามค่ำคืน ทำให้ดูสวยงามแปลกตา ในขณะที่บางลำก็ถูกลงสีสันฉูดฉาดไว้บนเนื้อด้านในของลำไผ่ ยามต้องแสงจากเปลวเทียนก็ชวนให้หลงใหลไม่รู้คลาย เทียนไขจะอยู่ในแก้วใบเล็ก ๆแล้วนำไปวางในกระบอกไม้ไผ่ เพียงแค่จุดไฟที่เทียนไข ช่างเรียบง่าย และงดงาม อาสาสมัครที่เป็นเยาวชนในชุดของนักรบ หรือซามูไรจะคอยทักทายนักท่องเที่ยว และแนะนำเส้นทางไปยังรถรับส่งอย่างขันแข็ง จนน่าชมเชย

ลำแสงจากโคมไม้ไผ่มากกว่าสองหมื่นโคมได้ห่อหุ้มเมืองแห่งปราสาททาเคดะไว้ได้อย่างน่าพิศวง เสียงดนตรีแผ่วเบา ช้า ๆ และเยือกเย็นจากศิลปินต่าง ๆทำให้จิตใจชุ่มฉ่ำล้ำลึก เบียร์ หรือเหล้าสาเกชั้นยอดชวนให้ลุ่มหลงไปสู่จินตนาการที่เกินกว่าจะประมาณได้ มันก็เป็นเช่นนี้แล

สำหรับคืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์เช่นเคยครับผม

2 thoughts on “Bamboo light : ชมนวลแสงจากลำไผ่ ฟังบทเพลงร่วมสมัยในงานเทศกาล Chiku Raku

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *