ประวัติของเครื่องหนัง (History of Leather) เป็นหนึ่งในชุดบทความ คู่มือสำหรับการเลือกซื้อเครื่องหนัง การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากหนังสัตว์เป็นเรื่องที่ยากพอควร การซื้อสินค้าหนังแท้ต้องพิจารณาด้วยสายตาที่เฉียบคมเกี่ยวกับคุณภาพของหนัง ผู้ซื้อโดยทั่วไปเข้าใจว่า นั่นก็คือหนัง หรือ หนังก็คือหนัง แต่หลายท่านคงรู้ว่ามันไม่จริงใช่ไหม?
หนังสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธี และการดูแลอย่างเหมาะสมจะมีความทนทานที่สูงมาก อีกทั้งเป็นวัสดุที่สวมใส่สบาย หนังสัตว์ส่วนใหญ่ได้มาจากวัว นอกนั้นเป็นควาย แพะ หมาป่า ม้า กวาง หนู กระต่าย งู จรเข้ แม้แต่ยีราฟ หรือม้าลาย
แต่ก่อนที่่จะเจาะลึกลงไปในเรื่องคุณภาพของหนัง ขอนำเสนอความเป็นมาใน ประวัติของเครื่องหนัง ว่ามีพัฒนาการมาอย่างไร
วิวัฒนาการอันยาวนานใน ประวัติของเครื่องหนัง
หนึ่งในการค้นพบที่เก่าแก่ และสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์มากที่สุดคือ หนังสัตว์ คนโบราณจะใช้ประโยชน์จากหนังสัตว์ หลังจากการล่าเพื่อเป็นอาหาร หนังสัตว์ที่เหลือเป็นผลพลอยได้ ที่มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ ทำเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เช่นเดียวกับในปัจจุบัน สัตว์ที่ถูกเลี้ยงในอุตสาหกรรม หลังจากนำเนื้อ นม และขนสัตว์ มาใช้ประโยชน์
หนังสัตว์ที่เหลือถูกนำมาใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า และรองเท้า หรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย เต็นท์กันแดด และฝน จากนั้นมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากหนังสัตว์เป็นเครื่องใช้ต่าง ๆ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังสัตว์ประมาณ 50% เป็นรองเท้า 25% เป็นเสื้อผ้า และอีก 15% เป็นเฟอร์นิเจอร์
ประวัติของเครื่องหนัง สมัยก่อนประวัติศาสตร์ (50,000 ปีก่อนคริสตศักราช)
การดำรงชีวิตของมนุษย์ในช่วงก่อนประวัติศาสตร์ เป็นไปในรูปแบบของการล่าเพื่อใช้เป็นอาหาร เนื้อส่วนที่กินได้เป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญ หากแต่พบว่าคนโบราณมีความพยายามเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่ถูกล่าให้ได้มากที่สุด โดยส่วนใหญ่นำมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม เพื่อให้ความอบอุ่น และป้องกันอันตรายจากสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ
มีหลักฐานสำคัญว่าประมาณ 400,000 ปีที่แล้ว มีการนำหนังมาขูดเอาขนออก และทำการฟอกแบบง่าย ๆ
มีการค้นพบว่าประมาณ 70,000-80,000ปีก่อนหน้านี้ มีอุปกรณ์ที่ทำจากกระดูกสัตว์คล้ายสว่านเจาะที่แอฟริกาใต้ สันนิษฐานว่า เป็นเครื่องมือสำหรับเจาะหนังสัตว์ให้ได้ตามรูปแบบการสวมใส่
ประวัติของเครื่องหนัง ยุคหิน (3,000-50,000 ปีก่อนคริสตศักราช)
มีการค้นพบเครื่องมือสำหรับฟอกหนังสัตว์ ที่ได้รับการยืนยันว่าเก่าแก่ที่สุด บริเวณตอนใต้ของอิรัก ที่เดิมเป็นที่ตั้งของอาณาจักรสุเมเรียนโบราณเมื่อ 5,000 ปีก่อนคริสตศักราช
ถ้ำในอาร์เมเนีย ที่มีอายุกว่า 3,500 ปีก่อนคริสตศักราช ค้นพบรองเท้าที่ทำจากหนังสัตว์
เชื่อกันว่าหนังสัตว์ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายเช่น เสื้อผ้า รองเท้า และที่อยู่อาศัย นอกจากนี้หนังสัตว์ยังถูกนำมาเป็นส่วนประกอบของรั้ว เพื่อปกป้องผู้คนจากสิ่งอันตรายต่าง ๆ
ในสุสานกษัตริย์ที่อียิปต์ มีภาพเขียนโบราณ ซึ่งมีอายุย้อนไปกว่า 5000 ปีก่อนคริสตศักราช ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า หนังสัตว์ถูกนำมาใช้เป็น รองเท้า เครื่องนุ่งห่ม ถุงมือ ภาชนะ แม้กระทั่งผ้าห่อศพ หลายภาพใช้หนังสัตว์ในภาระกิจทางทหาร
ประวัติของเครื่องหนัง ยุคสำริด (1300-3000 ปีก่อนคริสตศักราช)
ในช่วงเวลานี้ของใช้ที่ทำจากหนังสัตว์ยังคงได้รับความนิยมอยู่ นอกจากใช้ทำเครื่องนุ่งห่มแล้ว มีการดัดแปลงหนังสัตว์ไปทำรองเท้า ที่สำคัญพบว่าหนังสัตว์ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการทำสงครามเช่น โล่ป้องกันอาวุธในการต่อสู้
ประวัติของเครื่องหนัง ยุคเหล็ก (230-1,300 ปีก่อนคริสตศักราช)
ในยุคนี้ยังคงพบว่ามีการใช้หนังสัตว์อย่างแพร่หลาย นอกจากทำเป็นของใช้แล้ว ยังพบว่ามีการออกแบบหนังสัตว์ เพื่อใช้ทำเป็นเครื่องประดับเช่น ปลอกแขน ถุงมือ ซึ่งถือว่าเป็นของหรูหราในสมัยนั้น จึงกล่าวได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังสัตว์ถูกสงวนไว้สำหรับคนชั้นสูง
เครื่องหนังสมัยอียิปต์โบราณ
มีการอ้างอิงเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการฟอกหนังเมื่อ 1,300 ปีก่อนคริสตศักราชว่า ให้โรงฟอกหนังต้องตั้งในที่ห่างไกลชุมชน เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นที่รุนแรง
เครื่องหนังสมัยกรีกโบราณ
มีบันทึกครั้งแรกของชาวกรีกโบราณถึง การพัฒนาสูตรการฟอกหนังโดยหมักกับเปลือกไม้ และใบไม้ เพื่อรักษาสภาพของหนัง นับว่าเป็นการฟอกหนังด้วยพืชครั้งแรก ที่วงการฟอกหนังสมัยใหม่ยังคงสืบทอดกรรมวิธีนี้จนถึงปัจจุบัน การค้นพบในครั้งนั้นได้สร้างเส้นทางการค้าที่มีชื่อเสียงให้กับกรีซเมื่อ 500ปี ก่อน คริสตกาล
งานหัตถกรรมเครื่องหนังในสมัยกรีกมักทำเป็นรองเท้า แต่รูปแบบเปลี่ยนไปเป็นรองเท้าแตะ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้หนังสัตว์ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นเช่น โล่ หรือทำถุงสำหรับใส่ของ
เครื่องหนังสมัยโรมันโบราณ
ต่อมาชาวโรมันได้มีการใช้หนังอย่างกว้างขวางในปริมาณมาก สำหรับทำรองเท้า เสื้อผ้า เข็มขัด และยุทโธปกรณ์ทางทหารเช่น โล่ อานม้า บังเหียน สายรัด บูท รวมไปถึงเต็นท์ เป็นที่เชื่อได้ว่าทหารโรมันเป็นกลุ่มคนที่บริโภคหนังในปริมาณที่มาก
ชาวโรมันนิยมฟอกหนังให้เป็นวัสดุสีน้ำตาลที่มีความอ่อนนุ่ม ด้วยการใส่สารส้ม และเกลือ ในขณะที่ช่างผู้ชำนาญจะแล่หนังดิบออก และทำเป็นพื้นรองเท้าที่แข็ง และทนทานได้
ประวัติของเครื่องหนัง ยุคกลาง (คศ. 4-150)
ด้วยคุณสมบัติเรื่องความทนทาน ความสะดวกสบาย และความสวยงามของหนัง นักออกแบบในยุคกลาง ได้ใช้หนังเป็นส่วนประกอบสำหรับรองนั่งบนเก้าอี้รับประทานอาหารแทนผ้า เนื่องจากดูแลทำความสะอาดง่าย และไม่ดูดซับกลิ่นอาหาร ตั้งแต่นั้นมาหนังจึงถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของเบาะนั่ง และเฟอร์นิเจอร์
ความนิยมในผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ และการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตหนัง ยังคงดำเนินต่อไป มีการใช้เครื่องมือ การระบายสี การย้อมสี และการแกะสลัก ลงไปบนผืนหนังที่ใช้ทำเสื้อผ้า รองเท้า ปลอกมีดดาบ อานม้า กล่อง และอื่น ๆ เป็นผลงานศิลปะที่สวยงาม
ประวัติของเครื่องหนัง ยุคเรเนซองส์ (คศ. 1350-1650)
ยุคนี้เป็นยุคฟื้นฟูศิลปะ การผลิตเครื่องหนังเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ทักษะ และศิลปะ ผู้คนนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังสัตว์เป็นอันมาก มีการพัฒนาเครื่องมือการขึ้นรูป การปั๊ม เพื่อวัตถุประสงค์ทางศิลปะควบคู่ไปกับการใช้งานอย่างกว้างขวางใน เสื้อโค๊ต กางเกง ไม้เท้า กระเป๋า กระสอบ หมวก โล่ และอุปกรณ์ป้องกันร่างกายของคน และสัตว์ เช่นม้าศึก รวมไปถึงอานม้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทหาร
เครื่องหนังในยุครุ่งเรืองทางปัญญา (คศ. 1650-1780)
เครื่องหนังได้รับการปรับปรุงทางด้านเทคนิค และแฟชั่น มีการนำหนังสัตว์มาใช้ทำปกหนังสือ และรองเท้ากีฬา ในขณะที่การใช้งานในรูปแบบเดิมยังคงมีการผลิตอยู่
เครื่องหนังในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (คศ. 1750-1900)
ช่วงเวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง มีการสร้างเครื่องจักรอุตสาหกรรมทำให้การผลิตหนังสำเร็จรูปได้เร็วกว่ามาก โดยที่เครื่องจักรเองก็ได้ประโยชน์จากการใช้หนังทำสายพานที่ใช้ขับเคลื่อนเครื่องยนต์ด้วย
ในปี คศ. มีการออกสิทธิบัตรในการพัฒนาหนังเคลือบที่ให้ความมันเงาสูง
ในปี คศ. มีการคิดค้นการฟอกหนังด้วยโครเมียม ซึ่งการใช้แร่ธาตุฟอกหนังจะทำได้อย่างรวดเร็วกว่าการฟอกด้วยพืชอยู่มาก ทำให้ได้ผลผลิตเร็ว มีลักษณะบาง และนุ่มขึ้น
ในศตวรรษที่ 18 ถึง 19 ที่การอุตสาหกรรมรุ่งเรืองก้าวกระโดด ทำให้เกิดความต้องการใช้หนังในรูปแบบอื่น ๆ มีการประดิษฐ์หนังเป็นเข็มขัด สำหรับคาดเพื่อขับเคลื่อนเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมรถยนต์ที่เติบโตขึ้นต้องการหนังเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบต่าง ๆ ผู้คนมีรายได้ดีจากเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู มีความต้องการหนังในรูปลักษณ์ใหม่ ๆ เช่นรองเท้าที่นุ่มกว่า น้ำหนักเบากว่า สีสันสวยกว่า ทำให้เกิดการปฏิวัติในอุตสาหกรรมการฟอกหนัง หนังที่ถูกฟอกด้วยพืชแบบดั้งเดิมนั้นแข็ง หนา และหนักเกินไป จึงมีการพัฒนาวิธีการฟอกหนังด้วยเกลือโครเมียม ซึ่งต่อมาเป็นมาตรฐานสำหรับรองเท้า และหนังหุ้มเบาะที่ทันสมัยขึ้น
เครื่องหนังในปัจจุบัน (คศ. 1900-ปัจจุบัน)
ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เกิดนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง มีการพัฒนาสารเคมี กรรมวิธีการแปรรูปที่ซับซ้อนขึ้น ช่วยให้เกิดผลิตภัณฑ์หนังที่กว้างขวางขึ้น ทั้งยังช่วยขยายฐานความรู้สึกของผู้คนที่มีต่อหนังให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านความหลากหลาย ความสวยงาม การออกแบบ หนังจึงเป็นวัสดุทางเลือก ที่ไม่ใช่สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์เชิงพาณิชย์แต่เพียงอย่างเดียว หนังเป็นส่วนสำคัญสำหรับยานยนต์ การบิน และเรือเดินทะเลอีกด้วย
หนังยังคงถูกใช้ในปริมาณมากในแทบทุกด้านของชีวิต มีหลายกรรมวิธีในการฟอกหนังเช่น การฟอกด้วยพืช การฟอกด้วยสารเคมีเช่น โครเมียม อัลดีไฮด์ สารส้ม ให้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังหลายสี หลายเกรด
การฟอกหนังที่มีมานานหลายศตวรรษ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เก่าแก่ของอารยธรรมของมนุษย์ ชาวอียิปต์ อินเดีย จีน กรีก และชาวเมโสโปเตเมีย ต่างได้พัฒนากรรมวิธีการฟอกหนังในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อนำมาผลิตเป็นของใช้ต่าง ๆ การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์หนังที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และถูกสุขอนามัย
ตลาดเครื่องหนังโลก
# รายงานของ Global Leather Goods Market โดยนักวิเคราะห์จาก Technavio คาดว่าตลาดเครื่องหนังทั่วโลกจะเติบโตขึ้น 5 % ต่อปี ในช่วงปี 2560-2564
# ปี 2560 มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 217.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีมูลค่าเป็น 271.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 นั่นหมายถึงจะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
# ตลาดรองเท้าที่ทำจากหนังทั่วโลกมีมูลค่า 126.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2559
# คาดว่าในปี 2565 ตลาดเครื่องหนังทั่วโลกมีรายรับที่ 289 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
# ล่าสุดมูลค่าตลาดเครื่องหนังทั่วโลก ในปี 2562 เป็น 439.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าสิ้นปี 2569 จะมีมูลค่าตลาดรวมเป็น 547.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
# เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในปี 2563-2564 การคาดการณ์ข้างต้นอาจถูกปรับลดลง
ผูผลิตหลักชั้นนำในตลาดเครื่องหนังโลก
LVMH
Kering
Tapestry
Hermes
Burberry
Prada Group
Richemont Group
Belle
Natuzzi
Hugo Boss
Salvatore Ferragamo
CHANEL
AoKang
Red Dragonfly
Fossil Group
บทสรุป
เกือบทุกคนมีของใช้ในชีวิตประจำวันบางอย่างที่ทำจากหนังเช่น รองเท้า แจ็คเก็ต กระเป๋า พวงกุญแจ หมวก ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่มีการใช้หนังมาเป็นเวลายาวนาน ที่น่าทึ่งก็คือการใช้งานส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปแบบเดิม ๆ อีกทั้งกรรมวิธีการผลิตก็สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แม้จะไม่เหมือนเสียทีเดียว แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันไม่น้อย หนังจึงเป็นวัสดุที่ไร้กาลเวลาอย่างแท้จริง
bangkokbrain.com ไม่ได้สนับสนุน หรือส่งเสริมให้มีการทารุณกรรม หรือฆ่าสัตว์ เพื่อนำหนังของมันมาทำเป็นของใช้แต่อย่างใด แต่ไม่ได้คัดค้านการนำหนังสัตว์ ที่เหลือจากการบริโภค ส่วนที่เป็นเนื้อ นม หรือขน มาทำประโยชน์อื่น การนำหนังสัตว์มาทำประโยชน์เป็นเหมือนอารยธรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณ
ตราบใดที่คนยังบริโภคเนื้อสัตว์อยู่ อารยธรรมการใช้หนังสัตว์เพื่อประโยชน์อื่น ก็ยังคงมีต่อไป ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว อาจมีหนทางอื่น ที่คนอาจได้บริโภคเนื้อสัตว์ โดยไม่ต้องทำทารุณกรรมต่อสัตว์ก็ได้เช่น เทคโนโลยีสเต็มเซลล์ (Stem cells) และส่วนที่เป็นหนังของสัตว์ ก็อาจผลิตได้ด้วยเทคโนโลยีอย่างเดียวกัน ถึงตอนนั้นเราจะไม่เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตว่าเป็นอารยธรรม และมองเรื่องราวที่ผ่านมานานนั้นเป็นเพียง ประวัติของเครื่องหนัง เช่นนั้นเอง